เครื่องเสียงที่เหมาะกับห้องประชุมขนาดเล็ก

เครื่องเสียงที่เหมาะกับห้องประชุมขนาดเล็ก

ระบบเสียงห้องประชุมขนาดเล็ก

การประชุม ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการปฎิบัติงานในองค์กรต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนที่ทำงานร่วมกันในองค์กรนั้น ๆ จะได้ปรึกษาหารือ หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานร่วมกัน ใช้โอกาสในการวางแผนการทำงาน แบ่งความรับผิดชอบ หรือแม้กระทั้งชี้แจงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ห้องประชุมจึงเป็นสิ่งที่องค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยขนาดของห้องประชุมก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมที่จะรองรับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมในองค์นั้น ๆ มีตั้งแต่ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่รองรับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมได้ทีละมากๆ และห้องประชุมขนาดเล็กที่มีพื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางเมตร

และในปัจจุบันห้องประชุมขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากห้องมีขนาดเล็กก็จะมีความสะดวกในการบริหารการประชุมที่มากกว่านั่นเอง ในบทความนี้จะขอนำเสนอแนวคิดในการเลือกชุดเครื่องเสียงและระบบภาพที่เหมาะสำหรับห้องประชุมขนาดเล็ก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเลือกหาอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับงบประมาณ ตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งานอยางมีประสิทธิภาพ สำหรับติดตั้งในห้องประชุมขนาดเล็กในองค์กรของทุกท่านกันครับ

ชุดประชุมแบบเคลื่อนย้ายได้ ( Portable Conference )

ถือว่าเป็นชุดประชุมที่เหมาะสมมากกับห้องประชุมขนาดเล็ก เพราะตัวอุปกรณ์จะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด การใช้งานไม่ยุ่งยาก เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการที่มีทั้งลำโพงและไมโครโฟนในตัว  จึงเหมาะอย่างยิ่งกับห้องประชุมที่มีขนาดเล็กผู้เข้าร่วมประชุมไม่เกิน 6 คน วิธีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไม่ยุ่งยาก แค่เชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านสัญญาณบลูทูธ ก็สามารถใช้งานได้ทั้งโปรแกรมแชท Line, Facebook Messenger รวมไปจนถึงโปรแกรมประชุมออนไลน์อื่น ๆ เช่น Microsoft Team, Zoom เป็นต้น ตัวอย่างสินค้าที่แนะนำมีดังนี้

Yamaha รุ่น YVC-330 ชุดไมค์ประชุมพร้อมลำโพงที่รองรับ USB Bluetooth และ NFC มาพร้อม SoundCap Technology ที่เน้นให้เสียงสนทนามีความชัดเจนเป็นพิเศษ และยังปิดไมค์เพื่อลดเสียงรบกวนและปรับความดังได้อัตโนมัติอีกด้วย

Gygar CG-C200 Kit ชุดกล้อง Conference พร้อมไมโครโฟนและลำโพง คุณภาพกล้องระดับ 4K ที่สามารถซูมได้ชัดเจน และสามารถ Mark ตำแหน่งผู้พูด หรือคอนโทรลด้วยรีโมทให้กล้องหันไปตามตำแหน่งที่เรา Mark จุดไว้ตั้งแต่แรกได้ ชุดลำโพงและไมโครโฟนที่ให้มา สามารถครอบคลุมระยะได้ถึง 6 เมตร

Yamaha CS-700AV เป็นอุปกรณ์วีดีโอซาวด์บาร์ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในห้องประชุมขนาดเล็ก เหมาะสำหรับจุดที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ติดตั้งบนผนัง หรือติดตั้งใต้ทีวี มีทั้งกล้องที่สามารถรับภาพได้กว้างถึง 120 องศา ให้ภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมสามรถแชร์ข้อมูลขึ้นสู่จอได้อย่างง่ายดาย และมี AEC (Adaptive Echo Cancellation) ป้องกันเสียงย้อนกลับ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในพื้นที่การประชุมที่มีขนาดเล็ก

ข้อจำกัดของชุดประชุมแบบเคลื่อนย้ายได้ ( Portable Conference )

เนื่องจากตัวอุปกรณ์ออกแบบมาสำหรับความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือการพกพาเป็นหลัก ตัวอุปกรณ์และลำโพงจึงเป็นขนาดเล็ก ซึ่งให้กำลังวัตต์ที่ไม่สูงมาก ทำให้มีความดังของเสียงที่มีข้อจำกัด จึงเหมาะกับห้องประชุมที่มีขนาดห้องไม่เกิน 25 ตารางเมตร และควรเป็นห้องที่ไม่มีปัญหาเสียงเสียงสะท้อนเพราะจะส่งผลให้เกิดอาการเสียงสะท้อนเข้าไมค์ประชุมจนเกิดปัญหาอื่น ๆตามมา ชุดประชุมแบบนี้จึงไม่เหมาะกับห้องที่เน้นการประชุมเป็นหลัก แต่จะเหมาะอย่างยิ่งหากถูกใช้งานในลักษณะของการประชุมออนไลน์

ชุดประชุมแบบติดตั้งถาวร (Fixed Conference )

         เป็นชุดการประชุมที่เหมาะสำหรับห้องที่ออกแบบมาสำหรับงานประชุมโดยเฉพาะ ชุดลำโพงมักจะเป็นแบบที่ติดกับพนังหรือเพดานที่ผ่านการออกแบบความดังที่ครอบคลุมในห้องประชุมทั้งหมด

1.ชุดไมโครโฟนประชุม

 –  ไมโครโฟนแบบมีสาย

      เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับนิยมใช้งานอย่างมาก อันเนื่องมาจากความสะดวกในการใช้งานไมโครโฟนชุดประชุมส่วนใหญ่จะมีลำโพงมาให้ในตัว ทำให้ไม่ต้องมีระบบเสียงในห้องประชุมเพิ่มเติมก็ได้ ในกรณีที่ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเพิ่มจำนวนไมโครโฟนได้ ไม่มีปัญหาเรื่องคลื่นแทรกหรือสัญญาณหลุด สามารถเพิ่มอุปกรณ์ที่เรียกว่า Audio Interface เพื่อประชุมแบบออนไลน์ได้

     – ไมโครโฟนไร้สายแบบถือ

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มอบความสะดวกอย่างยิ่งกับผู้ใช้งาน และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการประชุม ซึ่งไมโครโฟนไร้สายจะไม่มีลำโพงในตัว จำเป็นจะต้องใช้งานร่วมกับระบบเสียงของห้องประชุมที่ประกอบไปด้วย มิกเซอร์ เพาเวอร์แอมป์ และลำโพง เพื่อขยายให้เสียงได้ยินครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้ความดังของไมโครโฟนจึงขึ้นอยู่กับระบบเสียงในห้องประชุม

      ข้อจำกัดของไมโครไร้สาย
      ข้อจำกัดหลัก ๆ ของไมโครโฟนไร้สายเลยก็คือเรื่องของจำนวนไมโครโฟน ซึ่งส่วนใหญ่ความถี่จะเป็นย่าน UHF ซึ่งมักจะใช้งานได้ไม่เกิน 6 ตัว  ข้อจำกัดนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไมโครโฟนด้วย เนื่องจากไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงๆ ก็จะสามารถใช้งานร่วมกันได้ในจำนวนไมค์ที่มากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่องความถี่ที่มีให้เลือกใช้ด้วย หากใช้หลายตัวผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีวามชำนาญในการจูนช่องไมโครโฟนไร้สาย เพื่อไม่ให้เกิดการคลื่นเบียดกันเอง อีกทั้งการเพิ่มจำนวนไมค์ผู้ใช้งานจะต้องคำนึงถึงอุปกรณ์รองรับในระบบเสียง เช่น มิกเซอร์ว่ามีจำนวนแชลแนลเพียงพอหรือไม่อีกด้วย

2.มิกเซอร์

เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รวมสัญญาณเสียงจากหลายแหล่งที่มา ไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน หรืออุปกรณ์มัลติมีเดียอื่น ๆ  นำมาปรับแต่ง แล้วส่งออกสู่เครื่องขยายเสียง แล้วส่งออกไปยังลำโพงต่อไป ปัจจุบันมิกเซอร์มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบ อนาล็อค และ ดิจิตอล มีจำนวนอินพุตมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละรุ่น สำหรับในการเลือกมาใช้งานก็ควรเลือกอินพุตโดยวางแผนจากอุปกรณ์ที่ต้องใช้ต่อพ่วงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน หรืออุปกรณ์เปิดมัลติมีเดียทั้งหมด รวมถึงอาจจะวางแผนไว้เผื่อจะมีการเพิ่มในอนาคตด้วย ส่วนจะเลือกแบบอนาล็อคหรือดิจิตอลนั้นก็ควรขึ้นอยู่กับความสะดวหรือความถนัดของผู้ใช้งานเป็นหลักครับ

3.ลำโพงและเครื่องขยายเสียง

แม้ว่าในการประชุมในห้องประชุมขนาดเล็ก บางครั้งเมื่อมีผู้ร่วมประชุมจำนวนไม่มาก จะสามารถประชุมได้โดยไม่ต้องใช้ลำโพงและเครื่องขยายเสียง  แต่ความเป็นจริงในการประชุมบางครั้งต้องมีการใช้สื่อเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เช่นวีดีโอที่มีภาพและเสียง ก็ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องต้องมีอุปกรณ์ขยายเสียงอย่าง เช่น ลำโพงสำหรับติดตั้งในห้องประชุมนั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบติดผนัง แบบติดเพดาน แบบติดกับโคมไฟระย้า หรือแม้กระทั่งฝังที่พื้นโต๊ะ

การเลือกใช้ลำโพงและอุปกรณ์ขยายเสียง จำเป็นต้องมีการคำนวนความดังอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการแก้ปัญหาเสียงสะท้อนภายในห้อง ข้อแนะนำคือควรปรึกษา Sound Engineer ที่มีความเชี่ยวชาญใน การติดตั้งเครื่องเสียงห้องประชุม ให้ทำการคำนวนความดังและออกแบบตำแหน่งติดตั้งระบบเสียง น่าจะเหมาะสมที่สุด

ระบบภาพ ( Visual System )

       ปกติแล้วในการประชุม หรือรายงานการประชุม มักจะต้องมีการนำเสนอข้อมูลประกอบการรายงานหรือนำเสนอ ข้อมูลเหล่านั้นอาจจะมาในรูปแบบของ ภาพ เสียง หรือแม้กระทั่ง VDO Presentation แล้วจอภาพแบบไหนที่เหมาะกับห้องประชุมขององค์กรของเรามาดูไปพร้อม ๆกันครับ

– จอทีวีปกติทั่วไป

เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน เพราะ เป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่หาซื้อง่าย มีราคาไม่แพง และมีขนาดหน้าจอให้เลือกหลากหลาย เทคโนโลยีจอทีวีในปัจจุบันมีระบบ Air Play ในตัว สามารถแชร์ภาพจากคอมพิวเตอร์ขึ้นหน้าจอได้เลย จอภาพมีความคมชัด และมีความสว่างมากพอที่จะสามารถเปิดพรีเซ้นการประชุมโดยไม่ต้องปิดไฟในห้องได้เลย

–  จอ Interactive

    เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะแบบเดียวกับจอทีวี แต่สามารถขีดเขียนบนหน้าจอได้ เพราะมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ติดตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับห้องประชุมขนาดเล็กที่ต้องการความเป็นสมัยใหม่ ตัวอย่างอุปกรณ์ชนิดนี้ คือ  Horion เป็นต้น

–  จอโปรเจคเตอร์และเครื่องฉายโปรเจคเตอร์

เป็นอุปกรณ์พรีเซ้นรุ่นแรก ๆ สำหรับห้องประชุม และยังมีใช้งานจนถึงปัจจุบัน แต่อุปกรณ์ชนิดนี้มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะในการใช้งาน เช่น ฟังก์ชั่นการใช้งานที่น้อยกว่าแบบจอทีวี ขนาดความสูงของของห้องต้องเพียงพอ ต้องมีระยะในการฉายภาพ และต้องใช้เครื่องฉายที่มีจำนวน ANSI เยอะขึ้น อย่างน้อย 4000 ANSI ขึ้นไป หากต้องการความสว่างเพียงพอที่จะสู้ความสว่างของแสงหลอดไฟในห้องได้ จึงควรเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายในการเลือกใช้งานสำหรับห้องประชุมขนาดเล็ก

สรุปแนวทางในการเลือกอุปกรณ์

สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรกคือ ฟังก์ชันการใช้งาน รูปแบบในการประชุม ระยะเวลาในการประชุม รวมถึงจำนวนผู้ร่วมประชุม เพราะสิ่งนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าเราควรใช้ระบบแบบไหน หากต้องการติดตั้งระบบขยายเสียง ก็ควรให้ Sound Engineer เป็นผู้ออกแบบและเลือกอุปกรณ์หรือดูแลการติดตั้งให้จะเหมาะสมที่สุด เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ที่เราใช้นั้น เหมาะสมต่อการใช้งานและคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นที่สุดครับ

หากอยากได้ระบบเครื่องเสียงห้องประชุมที่ตอบโจทย์การใช้งานและได้มาตรฐาน สามารถติดต่อขอคำปรึกษา AudioMeetingRoom ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-550-6340 หรือ 064-198-2499 สามารถส่งรายละเอียดขนาดห้องประชุม หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ Line @audiomeetingroom