ไมโครโฟน Microphone ห้องประชุมมีกี่แบบ

ไมโครโฟนประชุมมีกี่ชนิด

ไมโครโฟนห้องประชุม เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงที่สำคัญสำหรับห้องประชุม การเลือกใช้ไมโครโฟนสำหรับห้องประชุมนั้นสำคัญพอ ๆ กับการเลือกโต๊ะและเก้าอี้ห้องประชุม เพราะต้องเลือกให้มีความสวยงามกลมกลืนกัน นอกจากชนิดของไมโครโฟนที่แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ Analog กับ Digital แล้ว เราสามารถแบ่งรูปแบบของไมโครโฟนประชุมออกได้เป็น 3 รูปแบบดังนี้

1.ไมโครโฟนประชุมแบบมีสายตั้งโต๊ะ (Wire Desktop Conference Microphone)

ไมโครโฟนประชุมแบบมีสายตั้งโต๊ะนั้น มีให้เลือก 2 ชนิดคือ Analog และ Digital ประกอบไปด้วยไมโครโฟนสำหรับประธานและไมโครโฟนสำหรับผู้ร่วมประชุม พร้อมมีเครื่องควบคุมสำหรับจ่ายกระแสไฟและควบคุมจำนวนไมโครโฟนในการพูด

หากเป็นชนิด Analog ก็จะมีแค่ฟังก์ชั่นการทำงานพื้นฐาน คือไมโครโฟนสำหรับประธานจะมีปุ่มตัดเสียงไมโครโฟนผู้ร่วมประชุมเพิ่มมา 1 ปุ่ม นอกนั้นก็ไม่มีฟังก์ชั่นพิเศษมากมายอะไร

ถ้าเป็นไมโครโฟนประชุมแบบ Digital ก็จะสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการโหวตลงคะแนน โดยเลือกซื้อฐานไมโครโฟนที่มีระบบนี้มาให้ตั้งแต่แรกเริ่ม ถ้าซื้อแบบธรรมดามาแล้วมาเพิ่มทีหลังจะไม่สามารถเพิ่มได้ และบางรุ่นจะมีช่องสัญญาณให้เลือกใช้งานกับระบบแปลภาษา สามารถเชื่อมต่อกับระบบแปลภาษาเข้ามาในระบบได้โดยใช้สายสัญญาณเส้นเดียวกับไมโครโฟน ทำให้เกิดความสะดวกหากห้องประชุมไหนที่ต้องการมีระบบแปลภาษาเพิ่มเติมเข้ามา ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องรับแปลภาษาให้เกะกะ สามารถเสียงตรงช่องหูฟังและรับฟังการแปลแต่ละภาษาได้เลย

ข้อดี ของไมโครโฟนประชุมแบบมีสายตั้งโต๊ะ (Wire Desktop Conference Microphone)

ใช้งบประมาณไม่สูงมากถ้าเป็นระบบ Analog ให้คุณภาพเสียงที่ดี มีรูปทรงให้เลือกหลากหลาย การออกแบบขึ้นอยู่กับผู้ผลิต หากเป็นระบบดิจิตอล มีความสะดวกเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุม

ข้อเสีย ของไมโครโฟนประชุมแบบมีสายตั้งโต๊ะ (Wire Desktop Conference Microphone)

ไม่สามารถกำหนดรูปทรงเองได้ บางครั้งอาจจะไม่สวยงามเข้ากับโต๊ะประชุม หากเลือกโต๊ะประชุมไม่มีที่เก็บสายตรงกลางโต๊ะ ก็จะทำให้สายดูเกะกะบนโต๊ะประชุมได้ ชนิด Digital บางรุ่น อาจจะมีราคาแพงเกินความจำเป็นในการใช้งาน

ไมค์ประชุม bosch ccsd

2.ไมโครโฟนห้องประชุม แบบไร้สายตั้งโต๊ะ (Wireless Desktop Conference Microphone)

ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายตั้งโต๊ะ จะเป็นชนิด Digital เป็นหลัก ราคาจะค่อนข้างสูง ฟังก์ชั่นการใช้งานจะเหมือนกับไมโครโฟนประชุมชนิดมีสาย โดยส่วนใหญ่แล้วห้องประชุมที่ใช้ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายนั้น มักจะเป็นห้องที่ออกแบบและตกแต่งเสร็จเรียบร้อยสวยงามมาแล้วและโต๊ะประชุมด้านบนเป็นผิวเรียบทั้งหมด ไม่มีรูสำหรับร้อยสาย  การที่จะใช้ไมโครโฟนประชุมแบบมีสายจะทำให้โต๊ะดูไม่สวยงาม และห้องที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางโต๊ะประชุมที่ไม่ซ้ำกัน การใช้ไมโครโฟนประชุมแบบมีสายก็จะไม่มีความสะดวก ทำให้เสียเวลาในการเชื่อมต่อระบบและการจัดสายให้ดูสวยงาม ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับห้องประชุม

ส่วนการเลือกใช้ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายนั้น จะมีคลื่นความถี่ให้เลือกใช้คือ คลื่น UHF คลื่น Digital 2.4GHz หรือ 5GHz และคลื่นรังสีอินฟราเรด หรือ IR

ในการเลือกใช้คลื่นแต่ละคลื่นนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนในการใช้งาน หากเป็นคลื่น UHF ก็จะใช้ไมโครโฟนประชุมได้จำนวนไม่เยอะ เพราะช่องสัญญาณจะแคบมาก โอกาสที่คลื่นจะซ้อนทับกันมีสูง ทำให้เสียงไมโครโฟนประชุมขาด ๆ หาย ๆ ได้ระหว่างประชุม

ถ้าเป็นคลื่น Digital 2.4GHz และ 5GHz ก็จะสามารถใช้ไมโครโฟนประชุมได้หลายตัว เพราะคลื่นความถี่ช่วงนี้ จะมีช่องสัญญาณที่กว้างกว่าช่วงคลื่นความถี่ UHF

คลื่นความถี่ อินฟราเรด (IR) เป็นคลื่นความถี่ที่นิยมใช้และมีความเสถียรในการรับส่งสัญญาณอีกคลื่นหนึ่ง การใช้งานต้องมีเครื่องรับและส่งสัญญาณคลื่น IR โดยเฉพาะ

ข้อดี ของไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายตั้งโต๊ะ (Wireless Desktop Conference Microphone)

ไม่มีสายสัญญาณเกะกะให้ดูไม่สวยงาม ให้คุณภาพเสียงที่ดี

ข้อเสีย ของไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายตั้งโต๊ะ (Wireless Desktop Conference Microphone)

ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายจะมีราคาแพง ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น แบตเตอรี่สำหรับไมโครโฟนประชุม เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ ล้วนต้องซื้อเพิ่มเติมทั้งสิ้น

การใช้งาน ต้องหมั่นคอยตรวจเช็คแบตเตอรี่และคอยชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ทุกครั้งก่อนการประชุม หากใช้ประชุมเป็นเวลานานก็ต้องมีแบตเตอรี่สำรองในการใช้งานเพื่อไม่ให้การประชุมขาดตอน

เรื่องของคลื่นความถี่ ถ้าเป็นคลื่นย่าน UHF ก็จะใช้งานไมโครโฟนได้ไม่มากเพียงพอ การเพิ่มไมโครโฟนจะทำได้ลำบาก หากเป็นคลื่น 2.4GHz และ 5GHz ก็อาจจะมีช่องสัญญาณไปที่ซ้อนทับกับคลื่น WI-FI ภายในอาคาร หากต้องการหลีกเลี่ยงการที่คลื่นมีความซ้อนทับกับ ก็ต้องใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง ซึ่งก็มีราคาที่แพงมากอีกเช่นกัน ส่วนคลื่นความถี่อินฟราเรด(IR) ข้อเสียคือห้ามนำสิ่งของหรืออะไรก็ตามไปบังเครื่องรับและส่งคลื่น เพราะคลื่นอินฟราเรดนั้นไม่สามารถเลี้ยวข้ามสิ่งกีดขวางได้ อาจจะทำให้สัญญาณนั้นขาดๆหายๆได้ และเมื่อต้องการเพิ่มหรือย้ายตำแหน่งไมโครโฟน ก็ต้องเพิ่มหรือย้ายเครื่องกระจายสัญญาณ IR ตามไปด้วย

3.ไมโครโฟนประชุมแบบมีสายฝังโต๊ะ (Wire Flush Mount Conference Microphone)

ไมโครโฟนประชุมแบบฝังโต๊ะ จะเป็นไมโครโฟนชนิด Digital เน้นความเรียบหรูให้ไมโครโฟนดูกลมกลืนกับโต๊ะ ดูสวยงาม มีแค่ก้านไมโครโฟนเท่านั้นที่ยื่นออกมา หรือจะเป็นไมโครโฟนแบบฝังโต๊ะที่ตัวไมโครโฟนราบเรียบไปกับโต๊ะเลยก็มี หรือที่เรียกว่า Boundary Microphone เน้นให้โต๊ะประชุมดูสวยงาม ไม่เกะกะสายตา ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกับไมโครโฟนประชุมแบบตั้งโต๊ะทุกประการณ์ สามารถต่อเป็นโมดูลเพิ่มลดรูปแบบการทำงานได้ เหมาะกับห้องประชุมบอร์ดบริหาร ห้องประชุมสภา เพราะมีระบบเสียบบัตรแสดงตน การกดโหวตลงคะแนน

ข้อดี ของไมโครโฟนประชุมแบบมีสายฝังโต๊ะ (Wire Flush Mount Conference Microphone)

ทำให้โต๊ะประชุมดูสวยงาม ไม่มีอะไรวางเกะกะบนโต๊ะ สามารถปรับเพิ่มลดโมดูลฟังก์ชั่นของไมโครโฟนประชุมได้

ข้อเสีย ของไมโครโฟนประชุมแบบมีสายฝังโต๊ะ (Wire Flush Mount Conference Microphone)

ราคาแพง ต้องวางแผนเรื่องของโมดูลฟังก์ชั่นในการใช้งานให้ดี

สรุป

การเลือกใช้ ไมโครโฟนห้อประชุม แต่ละแบบนั้น ขึ้นอยู่กับงบประมาณในการเลือกซื้อ  การจัดโต๊ะประชุมนั้นก็มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อไมโครโฟนประชุม หากมีการวางแผนที่ดีก็จะได้เลือกซื้อไมโครโฟนประชุมได้อย่างคุ้มค่า

สนใจระบบไมโครโฟนประชุมและระบบเครื่องเสียงห้องประชุมที่ตอบโจทย์การประชุม สามารถติดต่อขอคำปรึกษา Audio Meeting Room ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-550-6340 หรือ 064-198-2499

ส่งแบบขนาดห้องประชุมและสอบถามรายละเอียดการบริการผ่านทาง Line @audiomeetingroom